แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลก

แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลก

พื้นที่มรดกโลก คือสถานที่ที่ได้รับการคัดเลือกจาก องค์การยูเนสโก (UNESCO) ว่ามีคุณค่าในด้านต่างๆ มีลักษณะสำคัญทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือด้านอื่น และได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายตามสนธิสัญญา สถานที่เหล่านี้ถือว่าสำคัญต่อประโยชน์โดยรวมของมนุษยชาติ
มีทวีทัวร์ ได้รวบรวมเส้นทางท่องเที่ยวที่รวมแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกให้คุณได้ไปสัมผัสกับคุณค่าสถานที่เหล่านั้นได้ตามความสะดวกทุกเส้นทาง

ภูเขาไฟฟูจิ / โตเกียว (Fuji San)

มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี 2013

ภูเขาไฟฟูจิอยู่เหนือเกาะญี่ปุ่นเป็นทรงกรวยคว่ำ ความสูง 3.776 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล การระเบิดครั้งหลังสุดของภูเขาไฟลูกนี้ เกิดขึ้นเมื่อปี 1707 ส่งผลให้มีเถ้าลาวาลอยฟุ้งปกคลุมเป็นรัศมีกว้างไกลไปถึงกรุงโตเกียวซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 100 กิโลเมตร เดิมชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่า ภูเขาไฟฟูจิเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่สถิตของเทพเจ้า
หมู่บ้านชิราคาวาโกะ / กิฟุ (Shirakawa-go)

มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี 1995

หมู่บ้านสไตล์กัสโซ-สึคุริ เป็นสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม รูปร่างของหลังคาเหมือนสองมือพนมของพระพุทธเจ้า หรือ พระเจ้า จึงเรียกหมู่บ้านสไตล์นี้ว่า “กัสโซ” ซึ่งแปลว่า “พนมมือ” ตามรูปแบบของบ้านมีหลังคาชันถึง 60 องศา ตัวบ้านมีความยาว 18 เมตร กว้าง 10 เมตร โครงสร้างของบ้านไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว แต่ยังคงความแข็งแรงสามารถรองรับหิมะที่ตกทับหลังคาในช่วงฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี เป็นความสวยงามของบ้านทรงโบราณที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา
วัดคิโยะมิซุ (วัดน้ำใส)/เกียวโต (Kiyomizu-dera)

มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี 1994

วัดนี้มีวิหารใหญ่ (ฮนโด) ตั้งอยู่บนไหล่เขา รองรับด้วยเสาไม้ต้นมหึมา และมีลานระเบียง (บุไต) ยื่นออกไปเหนือหุบเขากับตัวเมืองทางเบื้องล่าง
วัดคิโยะมิซุมีอายุเก่าแก่กว่าเมืองเกียวโต โดยก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 788 เพื่อบูชาพระโพธิสัตว์คันนงปาง 11 พักตร์ มีเวทีสำหรับการร่ายรำ กับศาลเจ้าจิชู เป็นที่สถิตของเทพแห่งความรักและความราบรื่นในชีวิตคู่ ถือเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่มีคนเลื่อมใสศรัทธามากที่สุดในญี่ปุ่น
ปราสาททอง หรือ วัดคินคะคุจิ /เกียวโต (Kinkakuji)

มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี 1994

มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดโระคุอง ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น มีศาลาทองเป็นจุดเด่นของวัด สร้างขึ้นในปี 1940 ลักษณะเป็นอาคารสามชั้น ชั้นแรกสร้างตามแบบพระราชวัง ชั้นสองสร้างตามแบบบ้านซามูไร ชั้นสามสร้างตามแบบวัดพุทธในนิกายเซน ตัวศาลาทองทั้งหลัง ยกเว้นชั้นใต้ดิน ปิดคลุมด้วยแผ่นทองคำบริสุทธิ์ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและโบราณวัตถุมีค่าอื่นๆ บนยอดหลังคาของศาลามีรูปหล่อทองคำรูปนกโฮโอ
ถ้ำหลงเหมิน / ลั่วหยาง (Longmen Grottoes)

มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี 2000

ตั้งอยู่ในเมืองลั่วหยาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หินในสถานที่นี้ก็มีคุณภาพดี เหมาะสำหรับการแกะสลัก เป็นคลังศิลป์หินสลักที่สำคัญของจีน ถ้ำหินหลงเหมินเริ่มงานขุดเจาะ ตั้งแต่สมัยจักรพรรดิเสี้ยวเหวินราชวงศ์เว่ยเหนือ(ค.ศ.471-ค.ศ.477)ใช้เวลากว่า 400 ปีจึงสร้างแล้วเสร็จ ปัจจุบัน มีถ้ำหินกว่า 1,300 ถ้ำ ช่องบรรจุพระพุทธรูป 2,345 ช่อง มีคำเขียนและศิลาจารึกกว่า 3,600 ชิ้น เจดีย์พุทธศาสนากว่า 50 องค์ พระพุทธรูปกว่า 97,000 องค์
ถ้ำหลงเหมินได้รับคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกด้วยคุณค่าความเป็นศิลปะหินแกะสลักที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและยอดเยี่ยมที่สุดของจีน
ถ้ำโม่เกา / ตุนหวง (The Mogao Grottoes)

มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี 1991

ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองตุนหวง มณฑลกานซู่ เป็นคลังพุทธศิลป์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุดของโลกปัจจุบัน เป็นสารานุกรมแห่งภาพพุทธศิลป์ ถ้ำโม่เกาได้ขึ้นทะเบียนเป็นโครงการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก และได้รับหนังสือรับรองเป็น “มรดกโลกทางวัฒนธรรม” เมื่อปี 1991
 สุสานกองทัพทหารม้าจิ๋นซี / ซีอาน (The Museum of Qin Terra-cotta Warriors and Horses)

มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี 1987

ตั้งอยู่ที่ตำบลหลินถง ห่างจากเมืองซีอาน มณฑลฉ่านซี ประเทศจีน ถูกค้นพบเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2517 โดยชาวนาชื่อ หยางจื้อฟา ในขณะที่ขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำบังเอิญพบกับซากของทหารดินเผาที่ทราบภายหลังว่ามีอายุมากกว่า 2,000 ปี ปัจจุบันรัฐบาลจีนขุดค้นพบวัตถุโบราณที่เป็นกองทัพทหารดินเผา สรรพาวุธ รถม้าและม้าศึก จำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,400 ชิ้น ภายในบริเวณพื้นที่หลุมสุสานกว่า 25,000 ตร.ม.
เมืองโบราณลี่เจียง / ลี่เจียง (Old Town of Lijiang)

มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี 1997

เมืองโบราณของชาวหน่าซี มีอายุย้อนหลังไปถึงราชวงศ์หยวนกว่า 800 ปี มีสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมแตกต่างไปจากเมืองโบราณอื่นๆของจีน มีชื่อเสียงจากคูคลองและสะพานที่มีอยู่มากมาย จนได้รับการขนานนามว่า “เวนิสแห่งตะวันออก”
อุทยานอู่หลิงหยวน / จางเจียเจี้ย (Wulingyuan)

มรดกโลกทางธรรมชาติ ปี 1992

ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลหูหนานทางภาคกลางของจีน ภายในเขตอุทยานมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ประกอบด้วยภูเขาหินที่มีรูปลักษณ์ประหลาดเป็นจำนวนมาก อุดมไปด้วยถ้ำหินปูน และหุบเขาน้อยใหญ่ รวมทั้งสะพานสิ่งอำนวยความสะดวกที่ถูกเนรมิตขึ้นจนเป็นที่กล่าวขานของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเป็นอย่างมาก
อุทยานจิ่วจ้ายโกว / จิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou Natural Reserve)

มรดกโลกทางธรรมชาติ ปี 1992

อุทยานจิ่วจ้ายโกว หรือที่ชาวตะวันตกเรียกขานกันในนามดินแดนแห่งเทพนิยาย ตั้งอยู่ในอำเภอหนันผิง เขตปกครองตนเองของเผ่าเชียง มณฑลเสเฉวน ภาคตะวันตกของจีน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 720 ตารางกิโลเมตร ท่ามกลางหุบเขาที่ทอดตัวคดเคี้ยวไปมา โตรกธารลดเลี้ยวผ่านผาสูงและน้ำตกขนาดใหญ่ ก่อเกิดทิวทัศน์อันตระการตาโดดเด่นด้วยสีสันของภาพภูมิทัศน์โดยรอบ
โบสถ์เซนต์ปอล / มาเก๊า (Ruins of St. Paul’s)

มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี 2005

สัญลักษณ์ประจำเมืองมาเก๊าที่ทุกคนจะต้องขอไปเยือน โบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1602 เพื่อใช้เป็นโรงเรียนสอนศาสนาแห่งแรกของชาวตะวันตกในดินแดนตะวันออกไกล ต่อมาในปี ค.ศ. 1835 ได้เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรง ทำให้เกิดความเสียหายทั้งหลัง คงเหลือเพียงประตูหน้าและบันไดทางเข้าเท่านั้น และได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1991 ด้านหลังของประตูโบสถ์ได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ทางศาสนา เพื่อรวบรวมภาพเขียนและจัดแสดงอุปกรณ์ที่ใช้ในการพิธีทางศาสนา มีหลุมฝังศพของบาทหลวง วาลิคนาโน ผู้ก่อตั้ง และโครงกระดูกของชาวคริสต์ญี่ปุ่น และเวียดนามที่เสียชีวิตเมื่อคราวที่เกิดไฟไหม้ครั้งนั้น
ทะเลสาบไบคาล / ไซบีเรีย (Lake Baikal)

มรดกโลกทางธรรมชาติ ปี 1996

ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของไซบีเรีย ประเทศรัสเซียเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ลึกที่สุดในโลก จุดที่ลึกที่สุดมีความลึกกว่า 1,640 เมตร ทะเลสาบไบคาลเกิดจากการที่น้ำเอ่อล้นเข้ามาจนเต็มรอยเปลือกโลกที่แตกเมื่อ 25 ล้านปีที่แล้ว
เป็นแหล่งที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์หายากหรือสวยงามเป็นพิเศษ
เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดสัตว์และพันธุ์พืชที่หายากที่ยังคงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ระบบนิเวศอันเป็นแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์ของพืชและสัตว์ที่ทั่ว โลกให้ความสนใจ
นครวัด / กัมพูชา (Angkor wat)

มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี 1992

ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่รวมกว่า 1.6 ล้านตารางเมตร แรกเริ่มนั้นสร้างขึ้นเป็นเทวลัยในศาสนาฮินดูเพื่ออุทิศแด่พระวิษณุ ก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงกลายเป็นวัดในศาสนาพุทธในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12
เป็นปราสาทที่ได้รับการอนุรักษ์ดีที่สุดในบริเวณที่ตั้งโดยรอบ นครวัดจึงเป็นปราสาทเพียงแห่งเดียวที่ยังคงความเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่มีความสำคัญมาตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง โดยนครวัดถือเป็นจุดสูงสุดของรูปแบบการสร้างสถาปัตยกรรมเขมรแบบดั้งเดิม และได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา มีการปรากฏอยู่บนธงชาติ และได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศกัมพูชาที่มีความสำคัญที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยว
จองผ่านไลน์
ติดต่อข่าวสารโปรโมชั่นทัวร์